โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 (PMQA 4.0 ) ของ สป.พม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 (PMQA 4.0 ) ของ สป.พม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ในวันพุธที่28 และวันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2565

รัฐบาลได้มีนโยบายขับเคลื่อนประเทศด้วยยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 เพื่อพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ที่มีการขับเคลื่อนทุกภาคส่วนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ดังนั้นระบบราชการไทยจึงต้องมีการพลิกโฉมและปฏิรูป เพื่อให้สอดรับกับบริบทที่กำลังจะเกิดขึ้นจากการเป็นประเทศไทย 4.0 ต้องมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างนวัตกรรมภาครัฐในการยกระดับไปสู่ “ระบบราชการ 4.0” ที่มีการทำงานเปิดกว้างและเชื่อมโยงกัน (Open & Connected Government) ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง (Citizen – Centric Government) มีขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย (Smart & High Performance Government) โดยอาศัยปัจจัยหลักสำคัญ คือ การสานพลังทุกภาคส่วน (Collaboration) การสร้างนวัตกรรม (Innovation) และการปรับเข้าสู่การเป็นดิจิทัล (Digitzation / Digitalization) ทั้งนี้ต้องทำงาน โดยยึดหลักธรรมภิบาล เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนเป็นหลัก เพื่อให้สามารถเป็นที่ไว้วางใจ และเป็นที่พึ่งพิงได้ของประชาชน

          ประกอบกับกรอบการประเมินส่วนราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำนักงาน ก.พ.ร. กำหนดให้มีตัวชี้วัดที่ประเมินประสิทธิผลและศักยภาพของหน่วยงาน โดยให้ส่วนราชการต้องพัฒนาศักยภาพองค์การสู่การเป็นระบบราชการ 4.0 ตามตัวชี้วัดที่ 2.2 การประเมินสถานะของหน่วยงานในการเป็นระบบราชการ 4.0 (PMQA 4.0) ค่าน้ำหนักคะแนนร้อยละ 15 ซึ่งหน่วยงานต้องพัฒนาองค์การไปสู่ระบบราชการ 4.0 โดยต้องมีคะแนนผ่านเกณฑ์เท่ากับปีที่ผ่านมา (453.66)

เพื่อให้การดำเนินการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA 4.0) ของ สป.พม. มีความครบถ้วน ครอบคลุม ตามกรอบแนวคิด รูปแบบ และลักษณะสำคัญ รวมทั้งปัจจัยแห่งความสำเร็จที่จะนำองค์กรไปสู่ระบบราชการ ๔.๐  สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงได้จัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 (PMQA 4.0) ของ สป.พม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ขึ้นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาองค์การให้ไปสู่ระบบราชการ 4.0 และเพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐของ สป.พม. ให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด

วัตถุประสงค์

2.1 เพื่อปรับปรุงและพัฒนาองค์การอย่างเป็นระบบ และส่งเสริมให้ข้าราชการและบุคลากรมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 (PMQA 4.0)

2.2 เพื่อเตรียมความพร้อมในการยกระดับการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐของ สป.พม. ให้ไปสู่ระบบราชการ 4.0

2.3 เพื่อจัดทำแบบประเมินสถานะการเป็นระบบราชการ 4.0 (ในรอบที่ 1 การประเมิน ตัวชี้วัดหมวด 7 ผลลัพธ์ของการดำเนินการ) ของ สป.พม. ประจำปี 2566

ดำเนินการระหว่างวันที่ 28 – 29 ธันวาคม ๒๕๖๕ ณ ห้องประชุมประชาบดี ชั้น ๑๙ อาคารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์


Share:



ประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้โครงการ การจัดการความรู้ (Knowledge Management) สป.พม. ประจำ  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กิจกรรม KM DAY สป.พม. show & share ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ถอดบทเรียนรางวัลเลิศรัฐ

ประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้โครงการ การจัดการความรู้ (Knowledge Management) สป.พม. ประจำ  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กิจกรรม KM DAY สป.พม. show & share ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถอดบทเรียนรางวัลเลิศรัฐ

ในวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้โครงการ การจัดการความรู้ (Knowledge Management) สป.พม. ประจำ  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ระหว่างเวลา 09.30 – 11.30 น. กิจกรรม KM DAY สป.พม. show & share ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ อภิปรายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถอดบทเรียนรางวัลเลิศรัฐ ผ่านระบบ Zoom Meeting โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย บุคลากรในสังกัด สป.พม. ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค วิทยากรภาครัฐ ได้แก่ นายสาธิต ชินวงศ์ และนางสาวฐินันชาพัฒน์ อนุวงศ์ รวมจำนวนทั้งสิ้น 138 คน

ในโลกยุคปัจจุบัน หน่วยงานใดที่มีข้อมูลสารนิเทศ (Information) และความรู้ (Knowledge) ที่ถูกต้องและเร็วกว่าย่อมได้เปรียบในเรื่องการแข่งขัน ทว่าหน่วยงานนั้นหากมีเพียงแต่ข้อมูล สารนิเทศและความรู้  ที่มากมายมหาศาล แต่ไม่สามารถจัดระบบหรือบริหารข้อมูล ย่อมทำให้ไม่สามารถบริหารข้อมูล ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ต่อหน่วยงาน การบริหารจัดการความรู้จึงเป็นเครื่องมือและเกณฑ์พิจารณาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ

ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มาตรา 11 กำหนดให้ส่วนราชการมีหน้าที่พัฒนาความรู้ในส่วนราชการให้มีการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ และสามารถ     นำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานของบุคลากรได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาองค์การสู่ระบบราชการ 4.0 ในหมวด 4 การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ ข้อ 4.3 การจัดการความรู้ และการสร้างองค์ความรู้ของส่วนราชการในการแก้ปัญหา เรียนรู้และมีเหตุผล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และต่อยอดการเรียนรู้ภายในหน่วยงาน การเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศ และองค์ความรู้นอกส่วนราชการเพื่อการแก้ปัญหาและสร้างนวัตกรรม จนเกิดกระบวนการที่เป็นเลิศ และผลลัพธ์ที่ดีสู่การบรรลุยุทธศาสตร์และการบริการประชาชนที่ดียิ่งขึ้น

                สป.พม. ได้ดำเนินการจัดตั้งทีมจัดการความรู้ในองค์กร ซึ่งทีมจัดการความรู้ยังประสบปัญหาในการนำการจัดการความรู้ไปใช้จริงภายในหน่วยงาน ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการจัดการความรู้ของ สป.พม. สามารถนำการจัดการความรู้ไปใช้ได้จริง เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายและแนวทางการพัฒนาองค์การสู่ระบบราชการ 4.0 จึงเห็นสมควรจัดโครงการการจัดการความรู้ (Knowledge Management) สป.พม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ และขับเคลื่อนการดำเนินงานการจัดการความรู้ตามแนวทางที่กำหนดไว้

วัตถุประสงค์

2.1 เพื่อให้เกิดการจัดการความรู้ภายในหน่วยงานอย่างเป็นระบบ 

2.2 เพื่อนำความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาการทำงาน จนนำไปสู่การสร้างให้เป็นแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice)

ดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ โดยเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้องค์ความรู้ นวัตกรรม ในการแก้ปัญหาและพัฒนางาน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  ๑๐.๑ สป.พม. มีการจัดการความรู้ภายในองค์กรที่สามารถนำไปใช้แก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงานได้        

  ๑๐.๒ สป.พม. มีการขยายผลแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างหน่วยงาน ทำให้เกิดเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้           

  ๑๐.๓ บุคคลและเจ้าหน้าที่ของ สป.พม. มีความรู้ความเข้าใจในการจัดการความรู้


Share:



โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนกระบวนการหลักและกระบวนการสนับสนุนของ สป.พม. เพื่อการปรับเปลี่ยนสู่องค์กรดิจิทัล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนกระบวนการหลักและกระบวนการสนับสนุนของ สป.พม. เพื่อการปรับเปลี่ยนสู่องค์กรดิจิทัล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ในวันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2565

โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนกระบวนการหลักและกระบวนการสนับสนุนของ สป.พม. เพื่อการปรับเปลี่ยนสู่องค์กรดิจิทัล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ในวันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2565 5  ณ ห้องประชาบดี  ชั้น 19 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

การจัดการกระบวนการ (Process Management) เป็นหมวด 1 ใน 6 หมวด ของการจัดการคุณภาพ   ตามเกณฑ์การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA)  เป็นเครื่องมือที่สำนักงาน กพร. ได้พัฒนาเพื่อใช้ในการพัฒนาองค์การตามยุทธศาสตร์หลักในการยกระดับคุณภาพระบบราชการให้มีศักยภาพและขีดความสามารถเทียบเท่าระดับสากล โดยมุ่งเน้นให้หน่วยงานราชการปรับปรุงและพัฒนาองค์การอย่างรอบด้านต่อเนื่องครอบคลุม และมีเป้าหมายให้ส่วนราชการมีการบริหารจัดการในด้านการออกแบบกระบวนการอย่างเป็นระบบ เพื่อให้องค์การสามารถบริหารงานได้อย่างเป็นระบบและการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด รวมทั้งสามารถตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการหลักและบรรลุเป้าหมายขององค์กร รวมทั้งพัฒนาขีดความสามารถขององค์กรภาครัฐให้มีการทำงานที่มีมาตรฐาน เป็นที่พึงพอใจของประชาชน

การจัดการกระบวนการเป็นหัวใจสำคัญของระบบการบริหารคุณภาพ เพราะกำหนดให้ส่วนราชการใช้วิธีการ ที่จะกำหนดกระบวนการหลัก (กระบวนการสร้างคุณค่า) และกระบวนการสนับสนุนที่สำคัญทั้งหมดที่ช่วยสร้างคุณค่าแก่ผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งกำหนดวิธีการติดตามควบคุมดูแลให้กระบวนการเหล่านั้น ดำเนินการเป็นไปตามแผนงาน และมาตรฐานการปฏิบัติงาน

กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารจัดการกระบวนการ จึงได้กำหนดจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนกระบวนการหลักและกระบวนการสนับสนุนของสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อการปรับเปลี่ยนสู่องค์กรดิจิทัล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖6 ตามภารกิจของหน่วยงานและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งนี้ได้มีการทบทวนและปรับปรุงกระบวนงานอย่างต่อเนื่อง และเพื่อการปรับเปลี่ยนสู่องค์กรดิจิทัล  ตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565

โดยมีวัตถุประสงค์

          2.1 เพื่อทบทวนกระบวนงานเพื่อให้องค์กรมีการปฏิบัติงานในกระบวนงานหลักที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยมีข้อกำหนดของกระบวนการที่มาจากความต้องการของผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มุ่งเน้นป้องกันความผิดพลาดของกระบวนการที่อาจเกิดขึ้น มีความคล่องตัว ลดต้นทุน ลดระยะเวลา สามารถส่งมอบผลผลิตและบริการที่มีคุณค่าต่อผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

          2.2 เพื่อได้กระบวนงานที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงาน เพื่อประเมินประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานของบุคลากรในองค์กร

          2.3 เพื่อให้การทำงานของหน่วยงานตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ เกิดความพึงพอใจต่อผู้รับบริการมีผลกระทบที่ดีโดยตรงต่อบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร

การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในรูปแบบ Onsite และ Online  ดังนี้

      – การบรรยายเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ

      – การ workshop เพื่อคิดวิเคราะห์ และทบทวนกระบวนการหลักและกระบวนการสนับสนุน

      – การสรุปและนำเสนอผลการประชุมกลุ่มย่อย และภาพรวม

      – การประชุมแบบ Online ผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

          10.1 องค์กรมีการปฏิบัติงานในกระบวนงานหลักที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

          10.2 หน่วยงานตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ เกิดความพึงพอใจต่อผู้รับบริการมีผลกระทบที่ดีโดยตรงต่อบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งก่อให้เกิด

ภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร


Share:



การประชุมตัวชี้วัดและประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการระดับบุคคลของ สป.พม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ประชุมคณะกรรมการการจัดทำข้อตกลงตัวชี้วัดและประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการระดับบุคคลของ สป.พม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ในวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565

ประชุมคณะกรรมการการจัดทำข้อตกลงตัวชี้วัดและประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการระดับบุคคลของ สป.พม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

        ในวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565 โดยมีระยะเวลาตั้งแต่ 09.00 – 15.00 น.

ณ ห้องประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชั้น 8 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการและผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยใช้ โปรแกรม Zoom

          โดยมีประธานการประชุม นางสาวอังคณา ใจกิจสุวรรณ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  การประชุมดังกล่าว เพื่อพิจารณาตัวชี้วัดของกระทรวงที่มอบหมายให้ สนง. พมจ. และสสว. 1 – 11 ขับเคลื่อนดำเนินงานและตัวชี้วัดตามภารกิจอำนาจหน้าที่ที่สำคัญ และ/หรือตามนโยบายของผู้บริหารของ สป.พม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยเป็นการถ่ายทอดมาจากตัวชี้วัดการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการทั้งในระดับกระทรวง ระดับกรม และตัวชี้วัดตามภารกิจหลัก/แผนปฏิบัติราชการของหน่วยงาน หรืองานประจำตามหน้าที่ตามปกติ ตัวชี้วัดตามนโยบายสำคัญหรือภารกิจที่ได้รับมอบหมายเป็นพิเศษ ซึ่งแต่ละกรม กอง/สำนัก ได้นำเสนอตัวชี้วัดเพื่อเป็นเป็นแนวทางให้หน่วยงานขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุยุทธศาสตร์ของกระทรวง


Share:



ประชุมหารือแนวทางการขับเคลื่อนข้อเสนอจากกิจกรรม MY BETTER COUNTRY HACKATHON ครั้งที่ 12

ประชุมหารือแนวทางการขับเคลื่อนข้อเสนอจากกิจกรรม MY BETTER COUNTRY HACKATHON ครั้งที่ 12 : ส่งเสียง ออกไอเดียปรับโฉมบริการภาครัฐให้ตอบโจทย์ ตรงใจ

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565

ประชุมหารือแนวทางการขับเคลื่อนข้อเสนอจากกิจกรรม MY BETTER COUNTRY HACKATHON ครั้งที่ 12 : ส่งเสียง ออกไอเดียปรับโฉมบริการภาครัฐให้ตอบโจทย์ ตรงใจ

            วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.00 น ณ ห้องประชุมจำปีสิรินธร ชั้น 19 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  นำโดยนางสาวอังคณา ใจกิจสุวรรณ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุม และนำเสนอภาพรวมของการจัดกิจกรรม โดย นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร.

                ได้มีการหารือแนวทางการขับเคลื่อนข้อเสนอผลงาน 4 ผลงาน ได้แก่

1. การพัฒนาแพลตฟอร์ม offline และ online ดูแลผู้สูงอายุโดยคุณจิรัน เฟื่องนาค และคุณนาดา มีระมาน

2. การให้คำปรึกษาผู้สูงอายุ โดยคุณวาสนา สุโรจน์วิทยา (ออนไลน์) และคุณพงษ์พิพัฒน์ชัย คงมีสุข

3. การพัฒนาการให้บริการผู้พิการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) โดยคุณนวพร ธูปแก้ว

4. การเปิดเผยสถิติ Data Case โดยที่ปรึกษาโครงการ

รูปกิจกรรมเพิ่มเติม https://photos.app.goo.gl/5ejpMucsvZe8HhrP9


Share:



MY BETTER COUNTRY HACKATHON 12

MY BETTER COUNTRY HACKATHON 12

กิจกรรม MY BETTER COUNTRY HACKATHON ครั้งที่ 12 ส่งเสียง ออกไอเดียปรับโฉมบริการภาครัฐให้ตอบโจทย์ตรงใจ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 ที่ True Digital Park กรุงเทพฯ

กิจกรรม MY BETTER COUNTRY HACKATHON ครั้งที่ 12 ส่งเสียง ออกไอเดียปรับโฉมบริการภาครัฐให้ตอบโจทย์ตรงใจ

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. กรมกิจการผู้สูงอายุ และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จัดกิจกรรม MY BETTER COUNTRY HACKATHON ครั้งที่ 12 : ส่งเสียง ออกไอเดียปรับโฉมบริการภาครัฐให้ตอบโจทย์ตรงใจ ที่ True Digital Park กรุงเทพฯ โดยได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมในวงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา ภาคเอกชนจากทั่วประเทศ และบุคลากรจากหน่วยงานภาครัฐ กว่า 80 คน ใช้เวลาทั้งหมด 8 ชั่วโมง ในการระดมความคิดเห็นและนำเสนอแนวทางการพัฒนาประสิทธิภาพการบริการภาครัฐให้ตอบโจทย์ประชาชน

โดยมีโจทย์ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ร่วมออกแบบงานภาครัฐ ประกอบด้วย 1) “Government Hotline and Website 1111 ยกระดับสายด่วนและเว็บไซต์ 1111 รับเรื่องร้องเรียนและให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ” 2) “Empowering Older Persons เสริมพลังคนวัยเก๋า เพื่อให้รู้ทันสื่อ เข้าถึงเทคโนโลยี หรือการพัฒนาร่างกายและจิตใจอย่างต่อเนื่อง” และ 3) “Social Welfare for All การเข้าถึงสวัสดิการภาครัฐของคนแต่ละช่วงวัย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ซึ่งเป็นโจทย์ของสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ในช่วงนำเสนอ นางสาวอังคณา ใจกิจสุวรรณ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ร่วมเป็น Commentator ให้ความเห็น คำแนะนำ เพื่อให้ผลงานสามารถนำไปต่อยอดอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปได้

💡6 ผลงานที่พร้อมนำไปปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม✨

2 ผลงานจากโจทย์ Empowering Older Persons เสริมพลังคนวัยเก๋า เพื่อให้รู้ทันสื่อ เข้าถึงเทคโนโลยี หรือการพัฒนาร่างกายและจิตใจอย่างต่อเนื่อง

1. การพัฒนาแพลตฟอร์มแบบ offline และ online เพื่อให้เข้าถึงคนได้ทุกกลุ่ม โดยการสร้าง official line (online) และจัด workshop (offline) ผ่านผู้นำชุมชน สภาเด็ก อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อสื่อสารข้อมูลในเรื่องสิทธิที่ควรได้ เช่น สิทธิควรได้ กิจกรรมข่าวสารต่าง ๆ โดยมีการ Link ข้อมูลระหว่าง online และ offline เข้าด้วยกัน รวมทั้งดึงพลังคนวัยเก๋า เพื่อลดช่องทางของการเข้าไม่ถึงสิทธิที่ควรได้ของผู้สูงอายุ รวมถึงเป็นช่องทางสร้างรายได้และอาชีพ แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้แก่คนวัยอื่นๆ

2. การให้คำปรึกษาเพื่อให้ผู้สูงอายุ สามารถดำเนินการในสิ่งที่ต้องการจะทำหลังวัยเกษียณ หรือให้ผู้สูงอายุสอนด้วยกันเอง เพื่อ Reskill และ Upskill ตนเอง เพื่อพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ของตนเองต่อไป และมีเส้นทางให้มีการรับผู้สูงอายุที่ได้มีการ Reskill และ Upskill ไปทำงานต่อในภาคเอกชนที่ต้องการบุคลากรที่มีประสบการณ์

2 ผลงานจากโจทย์ Social Welfare for All การเข้าถึงสวัสดิการภาครัฐของคนแต่ละช่วงวัย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

1. การพัฒนาการให้บริการผู้พิการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) ตั้งแต่เกิดในโรงพยาบาล โดยให้มีการดำเนินการในท้องถิ่นหรือในพื้นที่ ให้มีการเข้าถึงสิทธิทั้ง online และ offline เช่น ออกบัตรผู้พิการ เบี้ยยังชีพ ฯลฯ โดยให้มีการรับสิทธิ รู้สิทธิทันที รวมทั้งเรื่องการศึกษา และอื่นๆ โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่หลังจากออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากในปัจจุบัน one stop service ในลักษณะนี้มีเฉพาะภายใต้การกับกับดูแลของกรุงเทพมหานครเท่านั้น จึงอยากให้ขยายไปทั่วประเทศ และเพื่อให้เกิดการดูแลอย่างทั่วถึง โดยอาจให้อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เข้าไปสอดส่องดูแลผู้พิการในพื้นที่และส่งเรื่องไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.)

2. การเปิดเผยสถิติ Data Case ที่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเด็กได้รับความรุนแรงในครอบครัว เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และความไว้วางใจ ว่าสามารถช่วยเหลือเด็กได้จริง โดยการจัดทำ infographic ขั้นตอนการช่วยเหลือ และเอกสารสำหรับการติดต่อหน่วยงานรัฐแบบง่าย ๆ เสริมสร้างทักษะการให้บริการแก่เด็กที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ และเพิ่มบุคลากรวิชาชีพ เช่น นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ที่ขาดแคลนในบางพื้นที่ (สร้าง Trust เพื่อให้เด็กกล้าเดินเข้ามาขอความช่วยเหลือจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)

2 ผลงานจากโจทย์ Government Hotline and Website 1111 ยกระดับสายด่วนและเว็บไซต์ 1111 รับเรื่องร้องเรียนและให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ

1. การพัฒนาระบบหลังบ้านของหน่วยงานภาครัฐให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน ในการกรอกข้อมูลเท่าที่จำเป็น และไม่ต้องยืนยันตัวตนหลายรอบ และเมื่อแจ้งเหตุจะได้รับเลขเพื่อติดตามเรื่องเพื่อติดตามเรื่องต่อไป

2. การนำระบบ AI เข้ามาใช้ในการคัดกรองประเภท ตรวจสอบความครบถ้วน อัพเดท ติดตามสถานะ โดยดำเนินการผ่านระบบ line ได้ อย่างไรก็ตาม ในแต่ละเรื่องจะมีรายละเอียดที่แตกต่างทั้งในเรื่องของความยากง่าย และความซับซ้อน เช่น เรื่องที่ดิน ที่มีความซับซ้อนและมีรายละเอียดจำนวนมาก ต้องระบุรายละเอียดในระบบให้ถูกต้อง เพื่อช่วยสนับสนุนการคัดกรองเรื่องร้องเรียนให้แก่เจ้าหน้าที่ ให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองประชาชนได้อย่างทันท่วงที อันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของภาครัฐ โดยเฉพาะสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ดำเนินการในเรื่องนี้ด้วย

ช่วงท้ายของกิจกรรม ผู้บริหารจากทั้ง 3 หน่วยงานได้เน้นย้ำถึงว่าจะนำไอเดียของผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ไปต่อยอดขับเคลื่อนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปอย่างแน่นอน

รูปภาพกิจกรรม https://photos.app.goo.gl/FZFUePSyat459YLm9

http://intranet.m-society.go.th/media/attachfiles/sharefile/2193/63f5a84a02233.pdf

#PSDG #OPDC #Opengovthailand #Opendata #เพราะทุกไอเดียมีความหมาย #ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลง #ร่วมพัฒนาประเทศไปด้วยกัน #MYBETTERCOUNTRYHACKATHON #MBCH12 #ส่งเสียออกไอเดียปรับโฉมบริการภาครัฐให้ตอบโจทย์ตรงใจ #สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี #กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ #กรมกิจการผู้สูงอายุ #KonradAdenauerFoundation


เอกสารดาวน์โหลด : http://kpbstorage.m-society.go.th/index.php/s/a2RklMHgoQIxvE


Share:



Social media & sharing icons powered by UltimatelySocial